บทความฟุตบอล

การเล่นที่ผิดกติกาและเสียมารยาท(Fouls and Misconduct)

บทที่ 12 การทำผิดกติกาและการประพฤติมิชอบเป็นส่วนสำคัญที่สุดของเกมฟุตบอล การแข่งขันฟุตบอลเกี่ยวข้องกับการสัมผัสทางกายภาพและการเผชิญหน้าเหตุการณ์ระหว่างประเทศระดับสูงสุดหลายรายการเช่นฟุตบอลโลกฟุตบอลแห่งชาติยุโรปยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกและอื่น ๆสังเกตได้ว่ามีการสัมผัสและเผชิญหน้ากันมาก ไม่ผิดกติกาหากผู้เล่นล้มหรือได้รับบาดเจ็บจำเป็นต้องตัดสินให้ชัดเจนว่าทำฟาล์วหรือไม่ เตะ (Kicks) หรือพยายามเตะคู่ต่อสู้ ขัดขา (Trips) หรือพยายามขัดขาคู่ต่อสู้กระโดด (Jumps)
เข้าใส่คู่ต่อสู้ ชน (Charges) คู่ต่อสู้ ทำร้าย (Strikes) หรือพยายามทำร้ายคู่ต่อสู้ ผลัก (Pushes) คู่ต่อสู้ สกัดกั้น (Tackles) คู่ต่อสู้เพื่อแย่งการครอบครองลูกบอล การฟาล์ว 7 ประเภทข้างต้นมีความแตกต่างกันในระดับต่างๆผู้ตัดสินพิจารณา ว่าการกระทำของผู้เล่นประมาทน้อยประมาทหรือใช้กำลังมากเกินไปอาจได้รับใบเหลือง (ประมาท) หรือใบแดง (โดยใช้กำลังมากเกินไป) ข้อต่อไปนี้จะให้ฝ่ายตรงข้ามได้เตะโทษโดยตรงเช่นกัน ดึง (Holding) คู่ต่อสู้ ถ่มน้ำลาย (Spits) รดใส่คู่ต่อสู้ เล่นลูกบอลด้วยมือโดยเจตนา
(handles the ball de l iberately) (ยกเว้นผู้รักษาประตูที่อยู่ในเขตโทษของตนเอง) การฟาล์วทั้งสามประเภทนี้ ไม่มีความแตกต่างกันเมื่อทำฟาวล์แล้วฝ่ายตรงข้ามจะได้เตะจุดโทษโดยตรง (Direct free kick) นอกจากนี้ถ้าผู้เล่นกระทำผิดตามความผิดข้อหนึ่งข้อใดใน 10 ข้อ ภายในเขตโทษของตนเองในขณะที่ลูกบอลอยู่ในการเล่น  จะให้เป็นการเตะโทษ ณ จุดโทษโดยไม่ต้องคำนึงถึงตำแหน่งที่ลูกบอลอยู่จุดไหน แต่จะให้เริ่มเตะโทษ ณ จุดโทษ (Penalty Kick) และจะให้ฝ่ายตรงข้ามได้เตะโทษโดยอ้อมถ้าผู้รักษาประตูภายในเขตโทษของตนเองกระทำผิดตามความคิดข้อหนึ่งข้อใดใน 4 ข้อต่อไปนี้ 1.ครอบครองลูกบอลอยู่ในมือเกินกว่า 6วินาทีก่อนปล่อยออกจากการครอบครอง 2.สัมผัสลูกบอลด้วยมืออีกครั้งภายหลังจากการปล่อยลูกบอลจากการครอบครองแล้ว และยังไม่ถูกสัมผัสโดยผู้เล่นอื่นก่อน3.สัมผัสลูกบอลด้วยมือภายหลังจากผู้เห็นฝ่ายเดียวกันเจตนาเตะส่งมาให้4.สัมผัสลูกบอลด้วยมือภายหลังจากการได้รับมาจากการทุ่ม การเตะโทษโดยอ้อม (Indirect Free Kick)  จะให้ฝ่ายตรงข้ามได้เตะโทษโดยอ้อมถ้าผู้รักษาประตูภายในเขตโทษของตนเองกระทำผิดตามความคิดข้อหนึ่งข้อใดใน 4 ข้อต่อไปนี้1.เล่นในลักษณะที่เป็นอันตราย 2.ขัดขวางการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าของคู่ต่อสู้ 3.ป้องกันผู้รักษาประตูไม่ให้ปล่อยลูกบอลออกจากมือ 4.กระทำผิดในลักษณะอื่น ๆ ที่ไม่ระบุไว้ในกติกาข้อ 12ซึ่งต้องทำการหยุดการเล่นเพื่อคาดโทษหรือให้ออกจากการแข่งขัน มีดังนี้

 

  1. การกระทำผิดเกี่ยวกับการประพฤตินอย่างไม่มีน้ำใจนักกีฬา (Unsporting Behaviour)
  2. แสดงอาการคัดค้านการตัดสินโดยคำพูดหรือกริยาท่าทางการแสดงออก (Dissent by Word or Action)
  3. ทำผิดกติกาการแข่งขันบ่อย ๆ (Persistently Infringes the Law of the Game)
  4. ชะลอการเริ่มเล่น (Delay the Restart of Play)
  5. เมื่อมีการเตะจากมุมหรือการเตะโทษเพื่อการเริ่มเล่นใหม่ ไม่ถอยไปอยู่ในระยะที่ถูกต้อง
  6. เข้าไปสมทบหรือกลับเข้าไปสมทบในสนามแข่งขันโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ตัดสิน
  7. เจตนาออกจากสนามแข่งขันไปโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ตัดสินการกระทำผิดที่ต้องให้ออก (Senting-off offences)

ผู้เล่นจะถูกคาดโทษและแสดงใบเหลืองถ้าเขากระทำผิดตามความผิด 7 ประการใดประการหนึ่งของข้อข้างต้น

  1. การกระทำผิดเกี่ยวกับการประพฤตินอย่างไม่มีน้ำใจนักกีฬา (Unsporting Behaviour)
  2. แสดงอาการคัดค้านการตัดสินโดยคำพูดหรือกริยาท่าทางการแสดงออก (Dissent)
  3. ชะลอการเริ่มเล่น (Delay the Restart of Play)

ผู้เล่นจะถูกคาดโทษและแสดงใบแดงถ้าเขากระทำผิดตามความผิด 3 ประการใดประการหนึ่งของข้อข้างต้น

  1. กระทำผิดกติกาอย่างร้ายแรง (Serious Foul play)
  2. ประพฤติผิดกติกาอย่างแรง (Violent Conduct)
  3. ถ่มน้ำลายรดใส่ (Spit) คู่ต่อสู้หรือบุคคลอื่น ๆ
  4. ป้องกันฝ่ายตรงข้ามในการได้ประตูหรือโอกาสในการทำประตูหรือโอกาสในการทำประตูอย่างชัดแจ้งโดยเจตนาใช้มือเล่นลูกบอล (ไม่รวมถึงผู้รักษาประตูที่อยู่ภายในเขตโทษของตนเอง)
  5. ป้องกันโอกาสในการทำประตูได้อย่างชัดแจ้งของฝ่ายตรงข้ามที่กำลังเคลื่อนที่มุ่งตรงไปยังหน้าประตุของฝ่ายตนโดยการกระทำผิดกติกาต้องถูกลงโทษโดยตรง หรือเตะโทษ ณ จุดโทษ
  6. ใช้วาจาดูหมิ่นเหยียบหยามหรือหยาบคาย หรอแสดงท่าทางไม่เหมาะสม
  7. ได้รับการคาดโทษเป็นครั้งที่สองในการแข่งขันครั้งเดียวกัน (Receives a Second Caution in the Same Match)ผู้เล่นที่ถูกให้ออกต้องออกจากพื้นที่บริเวณใกล้เคียงสนามแข่งขันและเขตเทคนิค

Comment here